วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หนีหนาวขึ้นเขาใหญ่ สูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงสิ้นปี




กว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับลมหนาวทั้งทีทุกท่านคงจะอยู่เฉยไม่ได้ ต้องหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับลมหนาวในช่วงใกล้สิ้นปี ผู้เขียนเลยอยากจะมาแนะนำตัวเลือกสำหรับการไปพักผ่อนในช่วงฤดูหนาว อย่าง เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติที่แรกของประเทศไทย ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2505 บนพื้นที่มากกว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร กินพื้นที่กว้างขวางถึง 4 จังหวัด ใน 11 อำเภอ พร้อมธรรมชาติพื้นไม้นานาชนิด พร้อมด้วยสัตว์อย่าง นก , เสือ , ช้าง , กระทิง , เก้ง และ กวาง พร้อมสัตว์อีกมากมายที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างเข้ามาชมความอุดมสมบูรณ์ โดยภายในเขาใหญ่มีขุนเขาและน้ำตกรวมกันอยู่อย่างมากมายหลายแห่ง เหมาะสำหรับให้ผู้มาเยือนรับชมความงามกันอย่างหลากหลาย จนได้รับการขนานนามว่า อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียนกันเลยทีเดียว ...


 

         หากถามถึงผู้เขียนแล้ว หน้าร้อนแน่นอนว่าต้องลุยทะเลกับชายหาดร้อนๆ แสบไปถึงผิว แล้วสำหรับหน้าหนาวละ ? แน่นอนว่าจะต้องเป็นแม่น้ำภูเขาลำธาร ขึ้นไปเพื่อรับลมหนาวกับอากาศดีๆ หรือนั่งชมทะเลหมอกบนยอดภูเขาเป็นต้น แค่คิดเท่านี้ก็อยากแพ็คกระเป๋าเดินทางกันแล้วใช่ไหมละ ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่รอช้าหน้าหนาวเลยรีบมาแนะนำทุกท่านทันที หากพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยดีกว่า ...


ต้องบอกการว่าแม้เขาใหญ่จะเป็นเขาในเขตร้อน แต่ไม่ได้มีอากาศร้อนเลยสักนิดเดียวด้วยลมมรสุมที่พัดเข้ามา ทำให้เขาใหญ่มีฝนตกชุกตลอดปีทำให้มีสภาพป่ารกทึบร่มเย็น ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไปโดยอุณหภูมิเฉลี่ยตกอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส อากาศหนาวจัดจะอยู่ในช่วงปลายปีอย่าง ตุลาคม ไปจนถึงต้นปีหน้าในเดือน กุมภาพันธ์ หากใครที่เดินทางไปเที่ยวในช่วงปีใหม่ก็จะเจอนักท่องเที่ยวหนาตาเป็นพิเศษ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวบนเขาใหญ่มีมากมายเหลือเกิน อาทิ น้ำตกสาลิกา , น้ำตกเหวนรก , น้ำตกผากล้วยไม้ , น้ำตกเหวสุวัต และอีกมามายกว่า 20 แห่ง

พร้อมกันนี้ยังมีเขามากมายหลายลูกที่รอต้อนรับนักเดินทางอย่าง เขาร่ม , เขาแหลม , เขาเขียว , เขาสามยอด , เขาฟ้าผ่า , เขากำแพง , เขาแก้ว สุดท้าย เขาสมอปูน เรียกได้ว่าเที่ยววันเดียวไม่มีหมดแน่นอน


จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว

         ด้วยมีพื้นที่ที่กว้างขวางทางอุทยานจึงสร้างจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่กว้างใหญ่ มองเห็นเขาร่มเป็นแนวยาว อีกทั้งยังสามารถรับชมพระอาทิตย์ยามเช้าได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมองเห็นตัวจังหวัดของปราจีนบุรีอีกด้วย


สามารถชมสัตว์ป่าหายากตามจุดหอดูสัตว์
หากใครที่อยากเห็นสัตว์ป่าตัวเป็นๆ ตามธรรมชาติอย่าง กวาง , โขลงช้างป่า หรือโชคดีหน่อยอาจจะได้ชมฝูงกระทิงลงมาจากเขาเพื่อกินดินโป่งได้อีกด้วย โดยผู้เขียนแนะนำให้ไป หอดูสัตว์คลองปลากั้ง เพราะมีโอกาสเห็นฝูงกระทิงมากที่สุด โดยหอดูสัตว์มีด้วยกัน 3 แห่ง คือ

                                                                                                             1.หอดูสัตว์คลองปลากั้ง 

                                                                                                             2.หอดูสัตว์มอสิงโต

                                                                                                             3.หอดูสัตว์หนองผักชี

         ภายในเขาใหญ่นั้นเพียบพร้อมไปด้วยสัตว์ป่ามากสายพันธุ์ แบ่งเป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 67 ชนิด นกมีมากกว่า 250 ชนิด , พืชพรรณ 3,000 ชนิด และแมลงมากถึง 5,000 ชนิด หรือนักท่องเที่ยวอาจจะพบกับฝูงสัตว์ระหว่างขับรถไปตามท่องถนนแล้วมองลงมาจากริมทางก็ยังได้ โดยส่วนมากจะได้เจอกับฝูงช้างที่ออกมาหากินอาหาร หากโชคดีอาจจะพบเจอได้ตามริมถนนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างสุดๆ

สามารถค้างคืนบนเขาใหญ่ได้ พร้อมอุปกรณ์ให้เช่าครบครัน


         ใครที่ต้องการจะนอนค้างคืนหรือพักผ่อนไปกับธรรมชาติในช่วงกลางคืน ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกางเต็นท์นอน เจ้าหน้าที่ก็มีจุดกางเต็นท์ 2 จุดหลักๆ ก็คือ ผากล้วยไม้และลำตะคอง หากใครไม่ได้นำเครื่องมืออุปกรณ์มาก็สามารถเช่ากับทางเจ้าหน้าที่ได้ในราคาไม่แพง รวมถึงหากใครที่มาเป็นกลุ่มคณะทางอุทยานก็ได้มีค่ายพักแรมรองรับถึง 3 จุด ค่ายกองแก้ว ค่ายสุรัสวดี ค่ายเยาวชน สุดท้ายหากใครมาเป็นครอบครัวใหญ่เจ้าหน้าที่ก็ยังมีบริการให้เช่าบ้านพักในบริเวณทำการอุทยานและบ้านธนะรัชต์นั้นเอง


ผู้เขียนขอให้ผู้อ่านทุกคนที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนในช่วงอากาศหนาวๆ ... ก็ขอให้สนุกไปกับการท่องเที่ยวและการเดินทางอย่างเต็มที่ เที่ยวเมืองไทย สวยไม่แพ้ใครในโลก ...


         สุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากจะฝากถึงนักท่องเที่ยวทุกคนว่า การท่องเที่ยวบนแห่งธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด ควรที่จะช่วยกันรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์และอนุรักษ์พื้นป่า เช่น ไม่ควรขับรถเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ชนสัตว์ป่า , ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางช่วยรักษาความสะอาด , ไม่ควรรบกวนสัตว์ป่าตามธรรมชาติ เพียงเท่านี้ผู้เขียนก็เชื่อว่าจะช่วยให้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของเราคงอยู่ไปอีกนานเท่านาน ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น